โควิด-19 ในโปรตุเกส * 6 มกราคม 2565

วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ม.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 985 view

💥💥อัพเดทสถานการณ์โควิด-19 ในโปรตุเกส💥💥

1. วันนี้ ( 6 มกราคม 2565 ) สาธารณสุขโปรตุเกสยืนยันยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโปรตุเกสทั้งหมด 1,539,050 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 39, 074 ราย โดยเป็นสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มมากที่สุด รองจากเมื่อวานนี้ ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 39,540 ราย

🔴 ยอดผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีจำนวน 1,311 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 60 ราย (158 รายอยู่ใน ICU)

🔴 มีผู้ติดเชื้อ active case จำนวน 247,440 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 8,342 ราย

🔴 มีผู้เสียชีวิต 25 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 19,054 ราย

2. ประเด็นสำคัญได้แก่

🟣 สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โปรตุเกสมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณเพิ่มขึ้นเกิน 35,000 รายต่อวัน และร้อยละ 90 ของการติดเชื้อโควิด-19 ในโปรตุเกสขณะนี้เกิดจากสายพันธุ์โอไมครอน

🔵 ร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน

🟠 ค่าเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโปรตุเกสปัจจุบันอยู่ที่ 2104.7 รายต่อประชากร 1 แสนคน ในขณะที่อัตราการแพร่เชื้อต่อผู้ติดเชื้อ 1 ราย มีค่าเท่ากับ 1.41

3. วันนี้ รัฐบาลโปรตุเกสประกาศปรับมาตรการควบคุมโควิด โดยประเด็นสำคัญได้แก่

(1) ขยายระยะเวลาการทำงานจากที่พักอาศัยต่อไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค. 2565

(2) เปิดภาคการศึกษาตามกำหนดเดิมคือในวันที่ 10 ม.ค. 2565 และจะมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อในโรงเรียน

(3) สถานที่เที่ยวกลางคืนเปิดทำการได้ในวันที่ 14 ม.ค. 2565 โดยผู้เข้าใช้บริการต้องแสดงผลตรวจโควิด

(4) ขยายระยะเวลาการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะต่อไป

(5) ให้มีการแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าใช้บริการร้านอาหาร สถานออกกำลังกาย โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว การเข้าชมการแสดงและการเข้าร่วมงานต่าง ๆ

(6) ปรับลดการกักตัวลงเหลือ 7 วัน สำหรับผู้ที่มีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิดแต่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง และบังคับใช้การกักตัวเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อและผู้ที่พักอาศัยด้วยกัน นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับวัคซีน booster dose ไม่จำเป็นต้องกักตัว รวมทั้งได้รับการยกเว้นการตรวจโควิด หากได้รับวัคซีน booster dose มามากกว่า 14 วัน

4. นายกรัฐมนตรีโปรตุเกสแสดงความเชื่อมั่นว่า โควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประขาชนและต่อสถานการณ์สาธารณสุขน้อยกว่าที่ผ่านมา และประธานาธิบดีโปรตุเกสแนะนำให้ประชาชนใช้หลักการ “self-management” เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและรักษาสุขภาพของตนเอง ทั้งนี้ รัฐบาลเร่งตรวจหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยในขณะนี้มีอัตราการตรวจหาเชื้อเพิ่มมากกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับการดำเนินการในปีที่ผ่านมา โดยวันที่ 30 ธ.ค. 2564 มีการตรวจหาเชื้อกว่า 402,000 ครั้ง