รัฐบาลโปรตุเกสเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2013 ให้รัฐสภาพิจารณา

รัฐบาลโปรตุเกสเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2013 ให้รัฐสภาพิจารณา

วันที่นำเข้าข้อมูล 24 ต.ค. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 2,634 view

รายงานเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2555 โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน 

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 55  รัฐบาลโปรตุเกสได้เสนอร่าง พรบ. งปม. ปี 2013 ให้รัฐสภาแล้ว และต่อมา รมว. คลังโปรตุเกส นาย Vitor Gaspar ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับรายละเอียด งปม. ปี 2013 และปรากฏความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งปฏิกริยาจากกลุ่มต่างๆ สรุปได้ดังนี้  

1. มาตรการเข้มงวดทางการคลังชุดใหม่ประกอบด้วย

            - ลดจำนวนขั้นของฐานภาษีรายได้บุคคลธรรมดา (Tax brackets) จาก 8 ขั้น เหลือ 5 ขั้น อัตราภาษีระหว่าง 14.5 – 48% ทำให้อัตราภาษีโดยเฉลี่ย เพิ่มขึ้นจาก 9.8% เป็น 13.2%

            - เก็บ Surcharge 4% สำหรับผู้มีเงินได้ต่อปีทุกคน

            - เก็บ Solidarity surcharge 2.5% สำหรับผู้มีเงินได้ต่อปีมากกว่า 80,000 ยูโร

            - ขึ้นอัตราภาษีจากการขายหุ้น (Capital gains tax) จาก 25% เป็น 28%

            - ขึ้นอัตราภาษีอสังหาริมทรัพย์ (ยังไม่มีการระบุอัตราภาษี)

            - ขึ้นอัตราภาษีการใช้รถยนต์ จาก 1.3% เป็น 10%

            - ขึ้นอัตราภาษีการทำธุรกรรมทางการเงิน (ยังไม่มีการระบุอัตราภาษี)

            - ขึ้นค่าไฟฟ้า 2.8%

            - ปรับเกณฑ์อายุเกษียณของ พนง. หน่วยงานรัฐ จากเดิม 63 ปี เป็น 65 ปี

            - ลดค่าล่วงเวลาและค่าชดเชยการลาป่วย (Sick leave pay)  

            - ลดจำนวนลูกจ้างหน่วยงานรัฐ ประมาณ 2% หรือเท่ากับ 12,000 ตำแหน่ง

            - ตัดโบนัส พนง. หน่วยงานรัฐ 1 เดือน (จากเดิมได้รับโบนัส 2 เดือน)

            - ผู้ได้รับบำนาญมากกว่า 1,350 ยูโร จะถูกปรับลดบำนาญลง 3.5 - 10%

2. รัฐบาลได้เสนอร่าง พรบ. งปม. ปี 2013 ไปยังรัฐสภาแล้ว และจะมีการอภิปรายในสภา   ในวันที่ 31 ต.ค. นี้ และว่า มาตรการเข้มงวดทางการคลังใน งปม. ปี 2013 เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้โปรตุเกสบรรลุเป้าหมายการขาดดุล งปม. ในปี 2013 ที่ได้ตกลงกับ Troika  ที่ระดับ 4.5% และยืนยันอีกครั้งว่าโปรตุเกสจะไม่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินหรือยืดระยะเวลาการขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม ตลอดจนย้ำด้วยว่า มาตรการต่างๆ ผ่านการพิจารณาแล้วว่าจะทำให้ผู้มีรายได้สูงต้องจ่ายภาษีมากกว่าผู้ที่มีรายได้น้อย

3. นักเศรษฐศาสตร์ของโปรตุเกสประเมินว่า ในปี งปม 2013 รัฐบาลโปรตุเกสจะตัดการใช้จ่ายประมาณ 1,000 ล้านยูโร และขึ้นภาษี 4,300 ล้านยูโร ซึ่งรายได้จากการขึ้นภาษีจะมาจากการลดจำนวนขั้นฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 2,800 ล้านยูโร และการเก็บ Surcharge เพิ่มเติมอีก 4% ตลอดจนภาษีอสังหาริมทรัพย์และภาษีนิติบุคคล

4. ภายหลังรัฐบาลยื่นร่าง พรบ. งปม. ปี 2013 ให้แก่รัฐสภา มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างกว้างขวางและการประท้วงแสดงความไม่เห็นด้วย โดยเมื่อ 15 ต.ค. 55 ประชาชนจำนวนประมาณ 2,000 คน เดินทางไปชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา และเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคสังคมนิยม (PS) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักในสภา กล่าววิจารณ์มาตรการเข้มงวดการคลังว่าเป็น “fiscal atomic bomb” และยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนร่าง พรบ. งปม. ปี 2013 ส่วนผู้นำสหภาพแรงงาน CGTP ซึ่งมีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในโปรตุเกส กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมประชาชน

ทั้งนี้ การประกาศใช้มาตรการเข้มงวดทางการคลังเพิ่มเติมในปี 2013 ทำให้คะแนนนิยมของประชาชนต่อรัฐบาลลดลง ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ระบุว่า ประชาชนโปรตุเกสประมาณ 70% ไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล และประมาณ 53% เชื่อว่ารัฐบาลจะพ้นตำแหน่งก่อนครบวาระในปี 2015

5. นอกจากนี้ ภายในพรรคร่วมรัฐบาลและภายในพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (PSD) ยังมีความขัดแย้งและไม่เห็นด้วยกับ พรบ. งปม. ปี 2013 และมาตรการฯ โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นเริ่มคาดหมายเกี่ยวกับการถอนตัวของพรรคร่วมรัฐบาล CDS-PP ของนาย Paulo Portas (รมว.กต.) รวมทั้งมีการวิจารณ์มาตรการฯ โดย สส. จำนวนหนึ่งในพรรค PSD ด้วย   

 

Photo courtesy of www.euronews.com