รายงานเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2555 โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน

1. เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 55 ประธานาธิบดี Anibal Cavaco Silva ของโปรตุเกสเป็นประธานการประชุมสภาที่ปรึกษาแห่งชาติ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจยูโรโซน และสถานการณ์ของโปรตุเกส โดยมีบุคคลสำคัญในสาขาต่าง ๆ ของโปรตุเกสเข้าร่วม การประชุมดังกล่าวใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง และมีผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลบริเวณหน้าทำเนียบประธานาธิบดีหลายพันคน ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม สำนักประธานาธิบดีโปรตุเกส ได้ออกแถลงการณ์ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้

          1.1 สภาที่ปรึกษาฯ ให้ความสำคัญกับการหารือทางการเมืองและกับภาคส่วนต่างๆ ของสังคมเพื่อหาฉันทามติเกี่ยวกับข้อสรุปของมาตรการทางเศรษฐกิจ และเพื่อสร้างความเท่าเทียมและความยุติธรรมของประชาชน ตลอดจนปกป้องกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนผลักดันให้มีการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการจ้างงานและความเข้มแข็งทางสังคม

          1.2 รัฐบาลโปรตุเกสยินดีจะพิจารณานโยบายทางเลือกอื่น เพื่อทดแทนการปรับขึ้นการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมของลูกจ้าง (ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงของประชาชนจำนวนมากอย่าง ไม่เคยปรากฏมาก่อนและเกิดความขัดแย้งภายในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล)

          1.3 รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นว่า ได้มีการหารือทำความเข้าใจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการทางเศรษฐกิจ

2. เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 55 รัฐบาลโปรตุเกสได้ประชุมหารือกับภาคธุรกิจและสหภาพแรงงานเกี่ยวกับมาตรการทางเลือกเพื่อทดแทนการปรับเพิ่มการจ่ายเงินสมทบประกันสังคมของลูกจ้าง และได้ข้อสรุปว่า คณะรัฐมนตรีโปรตุเกสจะพิจารณาการขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจะพิจารณาคืนเงินโบนัส พนักงานหน่วยงานรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกตัดออกไปหนึ่งเดือน (เดิม พนักงานหน่วยงานรัฐได้โบนัสปีละสองเดือน) นอกจากนี้ รัฐบาลจะพิจารณาขึ้นภาษีกำไรจากการขายหุ้น ภาษีอสังหาริมทรัพย์ และภาษีสรรพสามิตยาสูบ แต่ขณะนี้ ยังไม่มีแผนจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่อย่างใด

3. นาย Olivier Bailly โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า สหภาพยุโรปจะรอการประกาศมาตรการใหม่ของรัฐบาลโปรตุเกส และย้ำว่า มาตรการใหม่ที่จะประกาศใช้ ควรทดแทนมาตรการเดิมได้ทั้งในแง่จำนวนเงินที่จะได้รับและคุณภาพของมาตรการฯ

 4. นาย Antonio Jose Seguro หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน PS (พรรคสังคมนิยม) กล่าวโจมตีรัฐบาลว่าไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร งปม. ซึ่งถึงจุดที่ทำให้ต้องใช้มาตรการ “รัดเข็มขัดเพิ่มเติม” และทำให้เศรษฐกิจโปรตุเกสตกต่ำยาวนานไปจนถึงปี 2013 ตลอดจนไม่ให้ความสำคัญกับพรรคร่วมรัฐบาล (CDS-PP) เกี่ยวกับความคิดเห็นที่ขัดแย้งในเรื่องมาตรการเศรษฐกิจรัดเข็มขัดเพิ่มเติม

 รัดเข็มขัดเพิ่มเติม

Photo Courtesy of www.presidencia.pt